เวลานี้ ซาอุดี โปรลีก กำลังถูกจับตา ว่าจะเดินตามรอย ไชนีส ซูเปอร์ลีก ที่สร้างความรู้จักให้ทั่วโลกด้วยการทุ่มเงินมหาศาลเพื่อสร้างแบรนด์ของตัวเอง ไปดูว่า ซาอุดีอาระเบีย เห็นหรือได้บทเรียนอะไรบ้างจากลีกของขีน คำพูดจาก สล็อต888
Givemesport ออกมาเปิดเผยว่าครั้งหนึ่ง ไชนีส ซูเปอร์ลีก ถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามต่อลีกที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป แต่หลายปีต่อมากลับไม่เป็นเช่นนั้น ….เป้าหมายของลีกมังกรคือการเป็นผู้นำในโลกของฟุตบอลภายในปี 2050 โดยที่ประเทศมีทรัพยากรเพียงพอในการทำเช่นนั้น
แผนการอันทะเยอทะยานประกอบด้วยเป้าหมายต่างๆ เช่น การไปถึงฟุตบอลโลก การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน และการชนะการแข่งขัน
ประธานาธิบดี สี จิงผิง ของจีน คือหัวใจสำคัญของโมเดลและจุดมุ่งหมายเหล่านี้ จีนอาจไม่เป็นที่รู้จักในด้านการผลิตแข้งระดับโลกเท่าไหร่นัก และถึงเวลานี้ก็ยังเป็นเช่นนั้น นั่นทำให้จีนวางแผนที่จะเปิดโรงเรียนสอนฟุตบอลหลายพันแห่งเพื่อพัฒนาพรสวรรค์รุ่นใหม่ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เด็กมีส่วนร่วมมากถึง 50 ล้านคน
การเติบโตของไชนีส ซูเปอร์ลีก
เม็ดเงินของลีกนี้ ที่ใช้จ่ายในการซื้อผู้เล่นมากที่สุดคือ ในฤดูกาล 2016-2017 ที่ใช้จ่ายถึง 320 ล้านปอนด์ในตลาดรอบเดียว โดยการย้ายทีมที่สูงที่สุดคือการดึงตัว ออสการ์ กองกลางทีมชาติบราซิลมาจากเชลซี ในเดือนมกราคม 2017 ด้วยค่าตัว 60 ล้านปอนด์ ซึ่งดีลการย้ายตรงนี้
ถูกมองว่ามีขนาดมากจนเกินไป แม้ว่าจะเป็นมาตรฐานในปัจจุบันก็ตาม ซึ่งค่าเหนื่อยนั้นสูงถึง 400,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ และอีกดีลที่ดึงดูดความสนใจของแฟนบอลคือ คาร์ลอส เตเบซ ที่ย้ายฟรีจากยูเวนตุส มาอยู่กับ เซียงไฮ้ เสิ่นหัว ซึ่งการย้ายไปยังลีกจีน ถือว่าไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจมากเท่ากับ ค่าเหนื่อย 650,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ที่ทีมจากลีกแดนมังกรทุ่มให้ และอีก 2 รายก็คือ รามิเรส และ ฮัล์ค 2 แข้งอดีตทีมชาติบราซิล ที่เลือกจะโบกมือลาลีกยุโรป มาหากินในฝั่งเอเชีย
แต่หลังการเซ็นสัญญา เตเบซ จากนั้นเพียง 12 เดือน ทุกอย่างก็เริ่มพังทลาย
เกิดอะไรขึ้นกับไชนีส ซูเปอร์ลีก?
การที่จีนหวังนำเงินเข้ามาสร้างลีกฟุตบอลที่เป็นเป้าหมายสูงสุด แต่กลับพบว่าไชนีส ซูเปอร์ลีก อยู่ในตำแหน่งตรงกันข้าม กลายเป็นว่าเม็ดเงินนั้นไหลออกเพื่อแสวงหาความสำเร็จ
ชาร์ลส์ คาร์โดโซ่ เอเย่นต์ฟุตบอล ได้เคยพูดถึงปัญหาไชนีส ซูเปอร์ลีกว่า "ทุกคนเชื่อว่าจีนคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ต่อไปที่จะเกิดขึ้นในวงการฟุตบอล"
“ทุกคนคิดว่ามันน่าจะเป็นเหมืองทอง แต่ไชนีส ซูเปอร์ลีกไม่ได้วางแผนให้ดี” เขากล่าวต่อ
"พวกเขากำลังวางแผนเรื่องไร้สาระ แต่ในความเป็นจริง พวกเขาไม่มีความสามารถในการจัดการทั้งหมด"
สโมสรในไชนีส ซูเปอร์ลีกเริ่มเจอปัญหสาและหยุดชะงักจากหนี้สินที่ก่อตัวขึ้น เป็นผลให้ผู้เล่นหลายคนเสียเงินและคนอื่น ๆ ไม่ได้รับค่าจ้างทั้งหมด
มิรานด้า อดีต กองหลังแอตเลติโก มาดริด และอินเตอร์ มิลาน ไม่ได้ค่าเหนื่อย 7.5 ล้านปอนด์เนื่องจากการยุบสโมสร
ขณะที่ทางสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ได้รับการร้องเรียนจากผู้เล่นเช่น เรนาโต้ ออกุสโต้ เนื่องจากฟีฟ่าเห็นว่าสัญญานักเตะสิ้นสุดลแต่ก็ต้องต่อสู้ในการเรียกร้องเรื่องเงินค่าเหนื่ยที่ต้องดำเนินต่อไป
กับการวางแผนโฟกัสไปที่นักเตะชื่อดังที่กำลังจะยุติอาชีพอย่าง เตเบซ, ฮัลค์ และ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ทำให้ไม่มีความคิดที่แท้จริงเกี่ยวกับอนาคตของลีก
ศรัณยู ยงพานิช กรรมการบริหาร บริษัท Foshan Westin Sports and Media และเจ้าของเพจ เล่าเรื่องบอลจีน เผยว่าสาเหตุที่ ลีกจีนเจอปัญหา ทำให้ลีก ต้องคัดกรองทีมที่จะอยู่ในลีกให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น ถ้าทีมไหนไม่มีกำลังจ่ายค่าเหนื่อยนักฟุตบอลจะถูกตัดออกจากลีกทันที ซึ่งหากจะเห็นข่าวสโมสรจีนยุบ นั้นมาจากการที่่ศักยภาพของทีมไม่พร้อมนั่นเอง อีกประเด็นคือการเจอสถานการณ์โควิด-19 เพราะเจ้าของทีมส่วนใหญ่เป็นเจ้าของบริษัทหรือเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ และทำธุรกิจเอง ทำให้มีกำลังในการจ่ายที่น้อยลง อีกทั้งต้องนำเงินไปฟื้นฟูธุรกิจตัวเองมากกว่า ที่จะนำมาลงในทีมฟุตบอล อีกทั้งมีในเรื่องของSalary Capหรือเพดานค่าจ้างเข้ามา จำกัด รวมถึงกฎหมายของจีนที่ค่อนข้างเข้มงวดทำให้ลีกจนไม่เป็นที่พูดถึงและนิยมลดลง
ปัจจุบันสนามฟุตบอลหลายแห่งในจีนถูกทิ้งร้าง เพียง 7 ปีหลังจากเซ็นสัญญากับอดีตนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่าง เตเวซ
ขณะที่ในทีมชาติก็ไม่มีความคืบหน้าช่นกัน โดยจีนอยู่ในอันดับที่ 78 ของฟีฟ่าแรงกิ้งในขณะนี้ อีกทั้งยังไม่ได้ผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลก 2022
เรื่องนี้มันยุติธรรมที่จะบอกว่าการวางแผนที่ผิดพลาดทีมยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์อย่าง เอเวอร์แกรนด์ได้เริ่มสร้างสนามกีฬาแห่งใหม่ที่มีความจุ 100,000 ที่นั่งในปี 2020 แต่ที่ดินถูกยึดหลังสร้างได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น
ทำนองเดียวกัน มีการดำเนินการเกี่ยวกับสถานที่สำหรับการแข่งขันฟุตบอลเอเชียนคัพในปี 2023 ก่อนที่จีนจะถอนตัวจากการเป็นเจ้าภาพ
ซาอุดีอาระเบียเรียนรู้อะไรจากความผิดพลาดขอไชนีส ซูเปอร์ลีก?
ในปี 2023 ซาอุดีอาระเบียกำลังอยู่ในระหว่างการสร้างลีกให้กลายเป็นมหาอำนาจใหม่ในโลกฟุตบอล เริ่มจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ย้ายจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปเล่นในตะวันออกกลางเดือนมกราคม ที่มีการเซ็นสัญญามูลค่า 173 ล้านปอนด์ กับสัญญา 2 ปีครึ่ง กับ อัล นาสเซอร์ ซึ่งหลังจากการย้ายของเจ้าของบัลลงดอร์ 5 สมัย บรรดาแข้งดังก็พาเหรดย้ายตามกันไป ไม่ว่าจะป็น คาริม เบนเซม่า และ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ สองนักเตะทีมชาติฝรั่งเศส ที่เคยสัมผัสแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาแล้ว ย้ายไปอยู่กับ อัล อิตติฮัด โดยการย้ายฟรี พรัอมค่าเหนื่อยมหาศาล
ไม่เพียงแต่ผู้เล่น ในตำแหน่งกุนซือ สตีเว่น เจอร์ราร์ด อดีตแข้งลิเวอร์พูล ก็เลือกที่จะไปรับงานคุมทีมในลีกซาอุฯ เช่นกัน
คาร์โดโซ่ ซึ่งเอเย่นต์ฟุตบอล เชื่อว่าซาอุดีอาระเบียจะเรียนรู้จากความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในลีกของจีน โดยให้ความเห็นว่า
"พวกเขาจะทำได้ดีอย่างแน่นอน เพราะพวกเขาไม่สามารถสร้างความเชื่อมโยงที่ดีกับฟุตบอลได้ แต่รู้ว่าจะเอาเงินที่ไหนและเท่าไหร่"
"ยกตัวอย่าง ลองดูเปแอสเช และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นต้น ต่างจากจีนตรงที่พวกเขามีกลยุทธ์และอำนาจทางการเงิน"
ในกรณีของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มีเจ้าของงเป็นกลุ่มทุนจากตะวันออกกลางได้แสดงความตั้งใจอย่าเต็มที่ที่จะเรียนรู้และทำงานให้ประสบความสำเร็จ แน่นอนได้มีการทุ่มเงินไปอย่างมหาศาล ซึ่งมันตอบโจทย์แล้วกับการเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก
ขณะที่ นิวคาสเซิ่ล อีกทีมที่ถูกซื้อโดยกลุ่มทุนซาอุฯ ในปี 2021 กลับเปลี่ยนจากทีมที่หนีตกชั้น กลายเป็นทีมที่ได้สิทธิ์ไปเล่นในถ้วย ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก
อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับทางเลือกที่ชาญฉลาดของเจ้าของใหม่ด้วยเช่นกัน โดย คาร์โดโซ่ กล่าวเสริมว่า ต้องให้เวลาในการสร้างลีกตรงนี้ แต่หากดูการเริ่มต้นนั้น ซาอุดี ลีก โปร ถือเป็นอะไรที่แข็งแกร่ง ผู้เล่นจำนวนมากมั่นใจว่าจะก้าวกระโดดจากสโมสรชั้นนำของยุโรปต่อไปยังอำนาจทางการเงินของประเทศนั้นๆ
ไชนีส ซูเปอร์ลีก ของจีน ถือเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าความมั่งคั่งไม่เท่ากับการรับประกันความสำเร็จ แต่หากใช้ในทางที่ถูกต้อง ก็อาจเป็นเครื่องมือที่สำคัญมากที่สุด